ปัจจุบันการตกแต่งบ้านด้วยต้นไม้กำลังได้รับความนิยมอย่างมาก ทั้งในกลุ่มวัยรุ่นและวัยทำงาน เนื่องจากสถานการณ์ของโรคโควิด-19 ทำให้พฤติกรรมของคนปรับตัวอยู่บ้านกันมากขึ้น จึงเกิดการจัดตกแต่งบ้านให้สดใสไม่น่าเบื่อ แต่สำหรับเพื่อนๆที่อยู่ในคอนโดมิเนียมอาจมีข้อจำกัดหลายอย่างในการตกแต่งห้องด้วยต้นไม้ วันนี้เราจะบอกเคล็ดลับสำหรับการเลือกต้นไม้ที่สามารถปลูกได้ในคอนโดและความรู้ดีๆ เกี่ยวกับการดูแลต้นไม้ในคอนโดของคุณให้อยู่กับคุณได้นานๆ มาฝากกันค่ะ
ก่อนอื่นต้องตรวจสอบก่อนว่าคอนโดของคุณสามารถรองรับต้นไม้ได้มากน้อยแค่ไหน มีสถานที่ที่เหมาะสมกับการปลูกหรือไม่ รู้ทิศทางของแสงแดดในแต่ละวัน ต้นไม้ประเภทไหนเหมาะกับคอนโดบ้าง รวมไปถึงการจัดวางต้นไม้สไตล์ไหนที่คุณชื่นชอบ ซึ่งเราขอแนะนำต้นไม้ที่เลี้ยงง่าย โตได้ดีในคอนโด เช่น พลูชนิดต่างๆ ฟิโลเดรนดรอน มอนสเตอร่า ไทรใบสัก ยางอินเดีย บิโกเนีย กวักมรกต เป็นต้น
1. เลือกตำแหน่งให้เหมาะสมกับต้นไม้
หลักการแรกที่คุณจำเป็นต้องรู้คือต้นไม้ที่คุณเลือกว่าต้องการแสงแดดหรืออากาศแบบไหนมากที่สุด เลือกวางในตำแหน่งของคอนโดที่ตรงความชอบ เหมาะสมกับการเติบโต เช่น แสงแดดเต็มวัน แสงแดดรำไร หรือแสงแดดอ่อนๆ
2. รดน้ำให้ถูกวิธี
ต้นไม้ที่ปลูกในคอนโดจะมีข้อจำกัดในเรื่องแสงแดดที่เพียงพอ ดังนั้นการรดน้ำจะต้องคำนึงถึงความชื้นในดินที่ระเหยออกได้ช้ากว่าปกติ ควรหมั่นดูแลสังเกตดินที่อาจทำให้เกิดรากเน่า จนทำให้ต้นไม้ตายได้ จึงควรรดน้ำให้พอดีไม่มากจนเกินไป
3. พาต้นไม้ไปรับแสงแดดบ้าง
ต้นไม้บางชนิดที่ขึ้นชื่อว่าเป็นพืชที่ไม่ชอบแสงแดด แต่ไม่ใช่ว่าจะไม่ได้ต้องการแสงแดดเลย เพราะแสงแดดมีผลต่อการเจริญเติบโตของพืช เป็นตัวช่วยในกระบวนการสังเคราะห์แสง หากต้นไม้ที่ไม่ได้รับแสงเป็นเวลานานๆ จะทำให้ต้นไม้อ่อนแอและเจริญเติบโตได้ไม่เต็มที่ ควรหาโอกาสพาต้นไม้ไปรับแสงแดดจากริมระเบียงในช่วงเช้าบ้าง ประมาณ 4-5 ชั่วโมงต่อวัน อาทิตย์ละประมาณ 2-3 ครั้ง เพื่อให้ต้นไม้ได้รับการสังเคราะห์แสงอย่างเหมาะสม
4. หมุนกระถางให้ต้นไม้ได้แสงแดดทั่วถึง
การวางกระถางต้นไม้ในตำแหน่งเดิมเป็นเวลานาน จะทำให้ทรงหรือพุ่มของต้นไม้เอนเข้าหาแสงไปทางใดทางหนึ่งมากเกินไป หากต้องการให้ต้นไม้สวยงามอยู่เสมอ ควรปรับทิศทางให้ใบได้รับแสงแดดสม่ำเสมอกัน โดยสังเกตได้จากลักษณะต้นไม้ที่เริ่มโค้งงอเข้าหาแสงแดด
5. เลือกใช้กระถางให้เหมาะสม
การเลือกกระถางก็สำคัญไม่น้อย ควรเลือกที่น้ำหนักเบาเคลื่อนย้ายได้สะดวก สัดส่วนเหมาะสมกับต้นไม้ไม่ควรเล็กหรือใหญ่เกินไปเพราะขนาดของกระถางส่งผลต่อการเจริญเติบโตของต้นไม้เช่นกัน รวมทั้งต้องมีที่รองกระถางหรือภาชนะด้วย เพื่อรองรับน้ำส่วนเกินที่เหลือจากการดูดซับของดินในกระถาง
6. เปลี่ยนวัสดุปลูกอย่างสม่ำเสมอ
วัสดุปลูกควรเป็นวัสดุที่ระบายน้ำได้ดี เพื่อให้รากได้รับออกซิเจนที่เพียงพอ บ่อยครั้งที่รดน้ำอาจทำให้ดินยุบตัวและอัดตัวกันแน่น ทำให้รากของพืชไม่ได้รับออกซิเจนที่เหมาะสม จะทำให้ต้นไม้หยุดการเจริญเติบโตหรือตายได้
7. ให้ปุ๋ยและสารอาหารที่พอดี
ต้นไม้ทุกต้นต้องการสารอาหารที่ไม่เท่ากัน แนะนำให้ใช้ปุ๋ยออสโมโคททุกๆ 3 เดือน ปุ๋ยชนิดนี้เป็นปุ๋ยละลายช้าเมื่อเรารดน้ำปุ๋ยจะค่อยๆละลาย และปล่อยสารอาหารออกมาให้พืชได้รับ จึงทำให้ต้นไม้ได้รับสารอาหารอย่างสม่ำเสมอ
8. ตัดแต่งกิ่งและทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ
การดูแลรักษาต้นไม้ถือเป็นเรื่องที่ไม่ควรละเลย เพราะนอกจากจะช่วยให้ต้นไม้ของคุณเติบโตได้ดีแล้ว ยังถือเป็นกิจกรรมที่ช่วยให้ผ่อนคลายได้ไม่น้อยเลยทีเดียว ควรหมั่นกำจัดแมลงหรือใบที่ผิดปกติออก และตัดแต่งให้ทรงพุ่มต้นไม้สวยงามอยู่เสมอ เพื่อรักษาความสะอาดของกระถางและความสวยงามของต้นไม้ที่คุณรัก