การสร้างบ้าน

รู้จัก “อิฐมวลเบา” ในงานก่อสร้าง

อิฐมวลเบา หรือ คอนกรีตมวลเบา เป็นวัสดุก่อสร้างที่ได้รับความนิยมมากขึ้นในปัจจุบัน เพราะมีคุณสมบัติในการป้องกันความร้อนได้มากกว่าอิฐชนิดอื่น แต่ส่วนที่สำคัญที่สุดก็คือฟองอากาศเล็กๆ เป็นรูพรุนไม่ต่อเนื่องที่อยู่ในเนื้อวัสดุมากประมาณ 75% ทำให้อิฐชนิดนี้มีน้ำหนักเบา ช่วยให้ประหยัดโครงสร้าง รวมถึงฟองอากาศยังเป็นฉนวนกันความร้อนที่ดี นอกจากนี้ ยังมีคุณสมบัติที่เด่นกว่าอฐประเภทอื่นตรงที่ ทนทานต่อไฟ แข็งแรง รับแรงกดได้มาก สะดวกในการก่อสร้าง ใช้เวลาไม่นาน แต่มีข้อด้อยตรงที่ ราคาจะสูงกว่าอิฐชนิดอื่นๆ

สำหรับ อิฐมวลเบา เหมาะกับการก่อสร้างในส่วนผนังหลักของบ้าน กับผนังคอนกรีตมวลเบาทั่วไปภายในอาคาร บ้าน หรือห้องที่ต้องการความเย็นสบาย และเก็บเสียงได้ดี ซึ่งสิ่งสำคัญในการนำ อิฐมวลเบา มาใช้ก็คือ ช่างที่ทำการก่อสร้างต้องมีประสบการณ์และมีฝีมือที่ละเอียดในระดับหนึ่ง เพื่อให้ได้ผนังอิฐมวลเบาที่มีคุณภาพ

ข้อดี ของอิฐมวลเบา แบบ AAC และ CLC

อิฐมวลเบาระบบ Cellular Lightweight Concrete(CLC) เป็นระบบที่ไม่ผ่านกระบวนการอบไอน้ำภายใต้ความดันสูง แต่ใช้สารเคมีแทน

การผลิตอิฐมวลเบาแบบ Autoclave Aerated Concrete (AAC) คือ คือระบบอบไอน้ำภายใต้ความดันสูง

ข้อดีของอิฐมวลเบา CLC,AAC ที่เหนือกว่าอิฐมอญ
– ประหยัดพลังงานเหนือกว่าอิฐมอญ 6-8 เท่า ในด้านประสิทธิภาพการต้านทานความร้อน
– ทำงานได้รวดเร็ว ลดเวลาการทำงานได้ 2-3 เท่า
– ความต้านทานไฟ เหนือกว่าอิฐมอญ 2-3 เท่า
– การเก็บกันเสียง ลดเสียงรบกวนได้ดีกว่า
– ลดความเสี่ยงต่อปัญหาสุขภาพ อัตราการซึมน้ำต่ำ ลดโอกาสเกิดเชื้อราสะสมในผนัง ทำให้บ้านเย็นและกันเสียงได้ดี

เปรียบเทียบข้อดี ของอิฐมวลเบาทั้ง 2 ระบบ

– อิฐมวลเบาที่ผลิต ด้วยระบบ AAC จะมีราคา ถูกกว่า CLC นิดหน่อย แต่ในการก่อสร้าง CLC
ประหยัดค่าก่อสร้างกว่า เนื่องจากใช้ปูนทรายธรรมดาในการก่อฉาบ จึงมีราคาถูกกว่าการใช้
ปูนพิเศษสำหรับ AAC
– อิฐมวเบาที่ผลิตด้วยระบบ AAC จะดูดซึมน้ำมากกว่า CLC ทำให้ CLC จะลดปัญหาความชื้นลดโอกาสความเสี่ยงต่อเชื้อรา
– อิฐมวเบาที่ผลิตด้วยระบบ AAC มีน้ำหนักเบากว่า CLC
.

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปล่อยเช่าคอนโด อุปกรณ์การเกษตร ของพรีเมี่ยม